บริษัท Bailong Chaungyuan และ Golden Corn ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพร่วมกัน
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม บริษัท Bailong Chuangyuan และ Linqing Golden Corn ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นทางการทั้งสองฝ่ายจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งหลักของตนในการร่วมมือกันอย่างครอบคลุมและลึกซึ้ง เพื่อคว้าโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรม และร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของภาคส่วนอาหารเพื่อสุขภาพผู้เข้าร่วมพิธีลงนามประกอบด้วย: จาง จื้อกัง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลเมืองหลินชิง; หลี่ ชุนจง สมาชิกคณะกรรมการประจำพรรคเทศบาลและผู้อำนวยการสำนักงาน; หลิว จ้าวฮวา สมาชิกคณะกรรมการประจำพรรคเทศบาลและรองนายกเทศมนตรี; เกา ซื่อจุน ผู้จัดการทั่วไปของ Golden Corn; กัว จื้อโป รองผู้จัดการทั่วไปของ Golden Corn; ฟ่าน เหวินเหลียง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการทั่วไปของ Linqingdeneng Golden Corn; จ้าว ฮว่ายปิน ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการฝ่ายขายของ Golden Corn; โต่ว เป่าเต๋อ ประธานบริษัท Bailong Chuangyuan; จั่ว หงเจี้ยน ผู้จัดการทั่วไป; โต่ว กวงเผิง รองผู้จัดการทั่วไป
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้จะนำไปสู่การบูรณาการอย่างลึกซึ้งของขีดความสามารถทางเทคโนโลยี กำลังการผลิต และทรัพยากรทางการตลาดของทั้งสองฝ่าย ในด้านหนึ่ง การจัดหาวัตถุดิบข้าวโพดคุณภาพสูงและกำลังการผลิตขนาดใหญ่ของ Golden Corn จะช่วยสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและเชื่อถือได้สำหรับการดำเนินงานด้านการผลิตของ Bailong Chuangyuan ในอีกด้านหนึ่ง ขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลักและช่องทางการตลาดระดับโลกของ Bailong Chuangyuan จะผลักดันอุตสาหกรรมการแปรรูปข้าวโพดขั้นสูงไปสู่ภาคส่วนที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น อาหารทางการแพทย์เฉพาะทางและส่วนผสมอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะเปลี่ยนวัตถุดิบธรรมดาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม สร้างแบบแผนใหม่สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมแบบบูรณาการ
ในอนาคต ทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเน้นไปที่สามด้านหลัก ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน การจัดสรรกำลังการผลิตอย่างแม่นยำ และการขยายตลาดร่วมกัน ความร่วมมือจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านต่างๆ เช่น ส่วนผสมอาหารทางการแพทย์พิเศษและอนุพันธ์แป้งที่มีคุณสมบัติทางชีวภาพ ความร่วมมือนี้จะไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการยกระดับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการด้านสาธารณสุขผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอีกด้วย จะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกด้านอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งการพัฒนาองค์กร ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม และคุณค่าทางสังคม




